วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

เครือข่ายท่องเที่ยวเชิงเกษตรจังหวัดระยอง



"ผลไม้รสล้ำ อุตสาหกรรมก้าวหน้า น้ำปลารสเด็ด เกาะเสม็ดสวยหรู สุนทรภู่กวีเอก"



จังหวัดระยอง เมืองชายทะเลฝั่งตะวันออกของประเทศไทย ที่ได้รับการขนานนาม ให้เป็นเมืองแห่งกวีศรีรัตนโกสินทร์ สุนทรภู่ผู้มีผลงานวรรณกรรมประเภทร้อยแก้วที่ยากจะหา ผู้ใดมาเทียบเทียม โดยเฉพาะนิทานกลอนสุภาพเรื่อง พระอภัยมณี โดยฉากในนิทานเรื่องนี้ คือบริเวณหมู่เกาะน้อยใหญ่ และท้องทะเลที่สวยงามในจังหวัดระยองนั้นเอง



ระยอง เริ่มปรากฎชื่อในพงศาวดารเมื่อปี พ.ศ. 2113 ในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชาแห่งกรุงศรีอยุธยา โดยมีประวัติดั้งเดิมตามข้อสันนิษฐานว่า น่าจะก่อตั้งเมืองขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 1500 ยุคที่ขอมมีอนุภาพเฟื่องฟูแถบดินแดนสุวรรณภูมิ นักโบราณคดีได้สันนิษฐานจากหลักฐานที่พบ คือ ซากศิลาแลงคูค่าย ที่ยังหลงเหลืออยู่ในเขตอำเภอบ้านค่าย อันเป็นศิลปะการก่อสร้างแบบขอม โดยในสมัยโบราณ ระยองมีชนพื้นเมืองคือชาวซอง ซึ่งเป็นเผ่าที่อาศัยอยู่กระจาย โดยทั่วไปในภาคตะวันออก ในประวัติศาสตร์ตอนหนึ่งได้กล่าวถึงเมืองระยอง ในปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ระหว่างที่กรุงศรีอยุธยาใกล้จะเสียแก่พม่าเป็นครั้งที่ 2 ในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ ในเดือนยี่ปี พ.ศ.2309 พระยาวชิรปราการ หรือ พระยาตาก พร้อมไพร่พลประมาณ 500 คน ได้ตีฝ่าวงล้อมทัพพม่า มุ่งสู่ตะวันออกมาหยุดพักไพร่พลที่เมืองระยอง และได้ปราบปรามคณะกรมการเมืองที่แข็งข้อยึดเมืองระยองได้ จากความสามารถครั้งนั้น เหล่าทหารจึงยกย่องให้เป็น "เจ้าตากสิน" ก่อนเดินทัพไปยังเมืองจันทบุรี เพื่อยึดดินแดนในการกอบกู้อิสรภาพคืนจากพม่าได้ในปี พ.ศ.2113



ความเป็นมาของ สวนมังคุดไทย











มังคุดรสชาติดี รับประกันคุณภาพทานได้ทุกลูก ต้องที่...สวนมังคุดไทย



สวนมังคุดไทยเป็นสวนท่องเที่ยวเชิงเกษตรบนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 4 ตำบลหนองตะพาน อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ดำเนินงานโดยคุณปัญญา สุขสว่าง ซึ่งได้กลับคืนสู่วิถีเกษตรซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมของครอบครัวในปีพ.ศ. 2538 ซึ่งเป็นปีที่บิดาของคุณปัญญาเสียชีวิตทำให้ต้องกลับมาดูแลสวน แม้ว่าคุณปัญญาจะเติบโตในท่ามกลางสวนเกษตร แต่ขาดทักษะความรู้เกี่ยวกับการทำการเกษตร เพราะเรียนตามหลักสูตรในระบบ ทำให้การที่จะเริ่มต้นทำสวนเกษตรต้องเพิ่มเติมความรู้ให้กับตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา อบรมจากหน่วยงานต่างๆ พร้อมทั้งพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากบุคคลรอบข้าง



สวนมังคุดไทย มีต้นมังคุดกว่า 300 ต้นอีกทั้งผลไม้หลากหลายชนิดประกอบ ไม่ว่าจะเป็น มะยงชิด มะม่วง มะพร้าว เงาะ แต่จุดเด่นอยู่ที่ผลของมังคุดมีคุณภาพ ปัญหาเรื่องเนื้อแก้ว และยางไหลมีน้อย ประกอบด้วยพื้นที่มีความเหมาะสม ดินเป็นดินเหนียวปนทราย มีน้ำทั้งปี จากการที่รับช่วงต่อจากบิดาได้มีการนำผลผลิตออกสู่ท้องตลาด โดยการขายส่งตามแผงผลไม้ ตลาด และโรงแรม บางส่วนได้มีการส่งออก แต่คุณภาพไม่ได้ ผลผลิตส่วนใหญ่จึงส่งขายตามร้านค้าต่างๆ ซึ่งเจอปัญหาตามมาคือ ขายแล้วเก็บเงินไม่ได้ จึงทำให้หันกลับมาพัฒนาคุณภาพของมังคุดเพื่อที่จะส่งออกแทน จากนั้นจึงเริ่มทดลอง สังเกตสิ่งแวดล้อมที่จะทำให้มังคุดมีคุณภาพดี คือ มีผิวมัน ขั้วเขียว โดยได้เรียนรู้และพัฒนาจนสามารถส่งออกได้มากขึ้น จากการส่งออกมังคุด ซึ่งเสมือนเป็นเครื่องรับรองคุณภาพของมังคุดได้เป็นอย่างดี และได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดมังคุด ในงานเทศกาลผลไม้และของดีจังหวัดระยอง



จากการที่คุณปัญญาได้เห็นถึงปัญหาปริมาณ และคุณภาพผลผลิตที่มีมาก แต่ไม่สามารถที่จะส่งออกต่างประเทศได้ทั้งหมด และส่วนที่ขายในประเทศก็ราคาตกต่ำ ทำให้คุณปัญญาได้นำประสบการณ์จากการที่ได้สัมผัสกับงานโรงแรม จึงเกิดมุมมองนำการท่องเที่ยวเข้ามาเกี่ยวข้องกับการทำสวนเกษตร และต้องการที่จะขายผลผลิตทีเหลือให้หมด และลดต้นทุนการขนส่ง โดยเน้นเรื่องคุณภาพสินค้า เพิ่มรูปแบบบรรจุภัณฑ์ เพิ่มบรรยากาศภายในสวน จึงได้เปิดสวนให้นักท่องเที่ยว ได้เข้ามาเรียนรู้สัมผัสบรรยากาศวิถีชีวิตชาวสวน



ติดต่อสอบถามได้ที่ คุณปัญญา สุขสว่าง โทร.085-912-8627,085-912-8627





ประวัติเจ้าของสวนมังคุดไทย



คุณปัญญา สุขสว่าง



ที่อยู่ปัจจุบัน: 31 ม.4 ต.หนองตะพาน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง 21120



สถานภาพ: สมรส จำนวนบุตร 2 คน



การศึกษา:



· ปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์



· ปริญญาตรี สาขาการออกแบบประยุกต์ มหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี



· มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนไทยวิจิตรศิลป์อาชีวะ



ประวัติการทำงาน:



· ปี พ.ศ.2547 - ปัจจุบัน เปิดสวนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร



· ปี พ.ศ.2538 - ปัจจุบัน ทำสวนเกษตร



· ปี พ.ศ.2535 - 2538 พนักงานบริษัท และกิจการส่วนตัวด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ออกแบบงานก่อสร้าง



· ปี พ.ศ.2522 - 2535 พนักงานออกแบบตกแต่งเกี่ยวกับโรงแรม



รางวัลและเกียรติประวัติ:



· ปี พ.ศ.2547 ได้รับใบประกาศเกียรติคุณ "เกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพไร่นาสวนผสม" จากกรมส่งเสริมการเกษตร



· ปี พ.ศ.2540 รางวัลชนะเลิศ การประกวดมังคุด ในงานเทศกาลผลไม้และของดี จ.ระยอง



กิจกรรมที่น่าสนใจของสวนมังคุดไทย



สวนมังคุดไทย มีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ วิถีชีวิตของขาวสวนมังคุด หลากหลายกิจกรรมตามความชอบใจ อีกทั้งยังมีสถานที่จัดประชุม สัมมนา รองรับได้ 100 คน อาทิเช่น



· บุฟเฟ่ต์ผลไม้ ประกอบไปด้วยบรรดาผลไม้สด ๆ อาทิ มังคุด เงาะ ลองกอง ฯลฯ (ติดต่อล่วงหน้า)



· ทานอาหารพื้นเมือง รสชาติอร่อย ของจังหวัดระยอง (ติดต่อล่วงหน้า)



· เที่ยวชมสวน ดื่มด่ำกับธรรมชาติภายในสวน ด้วยบรรยากาศเย็นสบาย



· พักโฮมสเตย์ภายในสวน ให้นักท่องเที่ยวได้



· กางเต๊นท์สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติในสวน



· ศึกษาดูงานบรรยายให้ความรู้เรื่องการเกษตร



สินค้าเด่นของสวนมังคุดไทย



สินค้าเด่นและของฝาก ภายในสวนมังคุดไทยมีหลากหลายชนิด ทั้งผลไม้สด และสินค้าแปรรูป ให้ทุกท่านได้เลือกซื้อเลือกเป็นของฝาก ได้แก่

































มังคุด : คุณภาพระดับส่งออก มีให้เลือกทั้งหมด 3 เกรด ได้แก่ AAA /AA /A รับรองคุณภาพทานได้ทุกลูก



มะพร้าวน้ำหอม : รสชาติ อร่อย หอม หวาน สดๆ จากต้น คลายร้อนดับกระหาย



ทุเรียน : มีให้เลือกหลากหลายทั้งหมอนทอง ชะนี คัดคุณภาพอย่างดี



มังคุดกวน : มังคุดกวน รสชาติถูกปาก ของสวนมังคุดไทย



เงาะ : เงาะโรงเรียน สีแดงสด หวาน กรอบ อร่อย



ไวน์มังคุด : ด้วยกรรมวิธีคุณภาพ ที่ใส่ใจในการผลิต ทำให้ได้ไวน์ที่มีรสชาติที่หอมหวน ชวนอลง



มะยงชิด : มะยงชิดพันธุ์ทูลเกล้า รสชาติหอมหวาน ชวนลอง





โฮมสเตย์สวนมังคุดไทย



ประวัติความเป็นมา : โฮมสเตย์สวนมังคุดไทย เกิดขึ้นจากเสียงเรียกร้องของนักท่องเที่ยวที่ได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศภายในสวน จึงอยากที่จะพักค้างคืนในสวน ทำให้คุณปัญญาตัดสินใจสร้างบ้านพักจำนวน 2 หลัง (หลังใหญ่ และ หลังเล็ก) นอกจากนั้น ยังมีที่กางเต๊นท์ ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ อันร่มรื่นภายในสวนมังคุดไทย



จำนวนห้องพัก : 2 หลัง
รับนักท่องเที่ยวได้ : หลังใหญ่ 10 คน หลังเล็ก 3 คน

ที่กางเต๊นท์ : 10 -20 หลัง (บริการเอง)

ราคาค่าบริการบ้านพัก : หลังใหญ่ 2,500 บาท หลังเล็ก 700 บาท


ติดต่อ : คุณปัญญา สุขสว่าง

ที่อยู่ : 31 หมู่ 4 ต.หนองตะพาน อ.บ้านค่าย จ. ระยอง
21120
โทรศัพท์มือถือ : 085-912-8627,085-912-8627



แผนที่สวนมังคุดไทย



ท่านสามารถเดินทางมายังสวนโดยรถยนต์ส่วนตัว จะสะดวกที่สุด ซึ่งสวนมังคุดไทยอยู่ห่างจากย่านตัวเมืองระยองราว 11 กม.เดินทางจากย่านตัวเมืองบนทางหลวงหมายเลข 3138 ก่อนถึง อ.บ้านค่าย ราว 5 ก.ม. สังเกตุสามแยกมีป้ายบอกทางไปสวนมังคุดไทย และรูปปั้นมังคุดลูกใหญ่ เลี้ยวซ้ายไปอีกราว 2 ก.ม. สวนมังคุดไทยอยู่หลัง อบต.หนองตะพาน



http://www.rayongagrotour.com/






วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

395วันของปินโต

ปินโตเกิดในค.ศ. 1509-1512เป็นชาวเมืองมองเตอมูร์เก่า (Montemor-o-velho) ใกล้เมืองกูอิงบรา (Coinbre) ในราชอาณาจักรโปรตุเกส ฐานะทางครอบครัวของปินโตอยากจนมาก เมื่อเข้าอายุประมาณ 10 ขวบต้องเป็นเด็กรับใช้ของสุภาพสตรีนางหนึ่ง ชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตรายจนต้องหลบหนีลงเรือจากเมืองกูแอ ดึ แปดรา (Cue de Pedra) การผจญภัยของปินโตเริ่มขึ้นเมื่อเดินทางไปถึงเมืองดิว (Diu) ในอินเดียในค.ศ.1538

ได้ 28 ปี เขาได้เดินทางกลับมาตุภูมิเมื่อวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 1558 รวมเป็นเวลา 21 ปีของการแสวงโชคในเอเชีย ปินโตเคยเดินทางไปในเอธิโอเปีย จีน อาณาจักรของชาวตาร์ตาร์ (Tataria) โคชินไชนา สยาม พะโค ญี่ปุ่น และหมู่เกาะอินเดียตะวันออกในน่านน้ำของอินโดนีเซีย

ปินโตเคยเดินทางเข้าสยาม 2 ครั้ง (กรมวิชาการ, 2531 : 115) ครั้งแรกเข้ามาในปัตตานีและนครศรีธรรมราชก่อนค.ศ.1548 ครั้งที่ 2 เข้ามายังกรุงศรีอยุธยาในรัชสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช (ค.ศ.1534-1546) นักประวัติศาสตร์บางคนนำหลักฐานของฝ่ายไทยเข้าไปตรวจสอบความน่าเชื่อถือในเอกสารของเขาหลายประเด็น และชี้ให้เห็นความคลาดเคลื่อนของศักราชที่เขาอ้างถึง

หลังจากปินโตถึงแก่กรรม บุตรีของเขาได้มอบต้นฉบับหนังสือเรื่อง “Pérégrinação” ให้แก่นักบวชสำนักหนึ่งแห่งกรุงลิสบอน ต่อมากษัตริย์ฟิลิปที่ 1 (Philip I of Portugal,1581-1598 และทรงเป็นกษัตริย์ฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน - Philip II of Spain,1556-1598) ทรงได้ทอดพระเนตรงานนิพนธ์ชิ้นนี้ บุตรีของปินโตจึงได้รับพระราชทานบำเหน็จรางวัลแทนบิดา

งานเขียนของปินโตตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.1614 และแปลเป็นภาษาต่างๆ อาทิ ภาษาฝรั่งเศส (1628) ภาษาอังกฤษ (1653) ใน ค.ศ.1983 กรมศิลปากรได้เผยแพร่บันทึกของปินโตบางส่วนในชื่อ “การท่องเที่ยวผจญภัยของแฟร์นังด์ มังเดซ ปินโต ค.ศ1537-1558 แปลโดยสันต์ ท. โกมลบุตร ต่อมากรมศิลปากรร่วมกับกรมวิชาการกระทรวงศึกษาธิการได้ตีพิมพ์ผลงานบางส่วนของเขาออกเผยแพร่อีกครั้งใน ค.ศ.1988 โดยแปลจากหนังสือชื่อ “Thailand and Portugal : 470 Years of Friendship”

รูปแบบการนำเสนอ

งานเขียนถูกนำเสนอในรูปของร้อยแก้ว บางตอนระบุว่าเรื่องที่ได้ยินได้ฟังมาจากคำบอกเล่าและการสอบถามผู้รู้ เช่น เหตุการณ์เมื่อสมเด็จพระไชยราชาธิราชเสด็จสวรรคต บางตอนก็ระบุว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ด้วยตนเอง เช่น เหตุการณ์เดินทางเข้ามายังสยาม 2 ครั้ง (กรมวิชาการ, 2531: 115) เป็นต้น

การเล่าเรื่องการเดินทางของเขามีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มีการเรียนรู้สภาพภูมิศาสตร์ของโลกให้มากยิ่งขึ้น

เขาระบุว่าอุทิศการทำงานให้แก่พระเจ้ามิได้หวังชื่อเสียง สิ่งที่ผลักดันให้เขาเดินทางไปยังตะวันออก คือ ธรรมชาติของลูกผู้ชาย เขาแสดงความขอบคุณพระเจ้าและสวรรค์ที่ช่วยให้รอดพ้นจากภยันตรายมาได้(Henry Cogan, 1653 :1-2)

เฮนรี โคแกนระบุว่า จุดมุ่งหมายในการแปลหนังสือ“Pérégrinação” จากภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาอังกฤษ คือ ต้องการให้ผู้อ่านทั่วไปเกิดความพึงพอใจและกระตุ้นให้มีการสำรวจและค้นคว้าทางภูมิศาสตร์

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเรืออับปาง มีทัศนศึกษาดินแดนต่างๆในโลกกว้างและเพื่อเรียนรู้เรื่องราวของคนป่าเถื่อน”(Henry Cogan, 1653 : A-B)

จุดมุ่งหมายที่จริงของทั้งปินโตและโคแกนสะท้อนให้เห็นคุณค่าของเหตุการณ์ สถานที่ ทรัพยากร อารมณ์ ความรู้สึกและวัฒนธรรมอันหลากหลายของผู้คนที่ปรากฏในหนังสือ “Pérégrinação”

งานของปินโตจึงได้รับการอ้างอิงอย่างกว้างขวาง อย่างน้อยๆฉบับแปลภาษาฝรั่งเศสในปีค..1628

ถูกอ้างอิงโดยซิมอง เดอ ลาลูแบร์ (Simon de Laloubère)

เข้าเดินทางเข้ามายังกรุงศรีอยุธยาปลายรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ เมื่อกล่าวถึงจำนวนเรือที่เข้ามาค้าขายในกรุงศรีอยุธยาก่อนหน้าการเข้ามาของตน (จดหมายเหตุลาลูแบร์ฉบับสมบูรณ์ เล่ม 1,2510 : 502) ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยว่าหากลาลูแบร์เคยได้ยินการเสียดสีงานเขียนของปินโตมาบ้างก่อนที่จะเดินทางเข้ามาสยาม เขาควรจะตรวจสอบหลักฐานจากผู้รู้พื้นเมืองชาวสยามอีกครั้ง ก่อนจะตีพิมพ์งานเขียนของตนที่กรุงอัมสเตอร์ดัมในปีค..1714 งานเขียนของปินโตเคยถูกล้อเลียนมาแล้วอย่างอื้อฉาว แต่กลับไม่ปรากฏข้อวิพากษ์ความน่าเชื่อถือของปินโตในงานของลาลูแบร์

คุณค่าทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับราชอาณาจักรสยาม

บันทึกของปินโตนับเป็นเอกสารสำคัญที่กล่าวถึงเรื่องราวส่วนหนึ่งเกี่ยวกับทรัพยากร การทหาร วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ กฎหมายและเรื่องราวในราชสำนักสยามกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16กล่าวถึงบทบาททางการทหารของชุมชนโปรตุเกส เมื่อเกิดศึกระหว่างสยามกับเชียงใหม่ขึ้นใน ค.ศ.1548 (พ.ศ.2091) ปินโต กล่าวว่า

“ชาวต่างประเทศทุกๆชาติที่ไปร่วมรบกับกษัตริย์สยามนั้นต่างก็ได้รับคำมั่น

สัญญาว่าจะได้รับบำเหน็จรางวัล การยกย่อง ผลประโยชน์ ความชื่นชมและเกียรติยศชื่อเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะได้รับอนุญาตให้สร้างโบสถ์เพื่อการปฏิบัติศาสนกิจในแผ่นดินสยามได้....”

การเข้าร่วมรบในกองทัพสยามครั้งนั้นเป็นการถูกเกณฑ์ หากไม่เข้าร่วมรบก็จะถูกขับออกไปภายใน 3 วัน ด้วยเหตุนี้จึงมีชาวโปรตุเกสถึง 120 คน จากจำนวน 130 คน อาสาเข้าร่วมรบในกองทัพสยาม

เป็นศึกเมืองเชียงกรานซึ่งเกิดขึ้นในค.ศ.1538 (พ.ศ.2081) คลาดเคลื่อนไปจากที่ระบุในหลักฐานของปินโต 10 ปี แม้ว่าสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพจะทรงอ้างจากหนังสือของปินโตก็ตาม

ความน่าเชื่อถือ

หนังสือของปินโตถูกตีพิมพ์เผยแพร่อย่างกว้างขวางในยุโรป จึงเป็นเหตุให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง วิลเลียม คอนเกรฟ (William Congreve, 1670-1729) นักเขียนบทละครชาวอังกฤษได้แทรกบทกวีในบทละครชื่อ “Love for Love” (ค.ศ.1695) เยาะเย้ยว่า “Mendez Pinto was but a type of thee, thou liar of the first magnitude.” (กรมศิลปากร, 2526 : 42 ) เซอร์ ริชาร์ด เบอร์ตัน ( Sir Richard Burton) ในงานเขียนชื่อ “The Third Voyage of Sinbad, the Sailor” ระบุว่า การผจญภัยของปินโตมีลักษณะคล้ายกับเรื่องราวในนิยายอาหรับและตั้งฉายาเขาว่า “ซินแบดแห่งโปรตุเกส”

ดับเบิลยู. เอ.อาร์. วูด (W.A.R. Wood) ชี้ว่าควรจะอ่านงานเขียนของปินโตในฐานะที่เป็นเรื่องราวของชายชราที่ได้เดินทางกลับไปสู่มาตุภูมิอีกครั้งหนึ่งเพื่อความบันเทิง มิใช่เป็นหลักฐานประวัติศาสตร์ที่เขียนขึ้นวันต่อวัน และตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความแม่นยำของปีศักราชในบันทึกชิ้นนี้ด้วย

อย่างไรก็ดี ดึ กัมปุช อดีตกงสุลใหญ่โปรตุเกสเมื่อค.ศ.1936 กลับชี้ว่าหลักฐานของปินโตแสดงให้เห็นว่าเขาเคยเดินทางเข้ามายังสยามจริง (Campos, 1940 : 14-15) และสิ่งที่สนับสนุนความน่าเชื่อถือในงานของปินโต คือ การยกงานเขียนในชั้นหลังๆมาเทียบเคียงความเป็นไปได้และความถูกต้องของเรื่องราวโดยเฮนรี โคแกน (ดูคำประกาศในฉบับแปลของHenry Cogan,1653 : ไม่มีเลขหน้า)

เอกสารอ้างอิง

นิธิ เอียวศรีวงศ์. 2523. ประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา.

นิธิ เอียวศรีวงศ์และอาคม พัฒิยะ. 2525. หลักฐานประวัติศาสตร์ในประเทศไทย.

มานพ ถาวรวัฒน์สกุล. 2536. ขุนนางอยุธยา.

ราชบัณฑิตยสถาน. 2550. กฎหมายตราสามดวงฉบับราชบัณฑิตยสถานเล่ม1.

วิชาการ. กรม . 2531. 470 ปีสัมพันธไมตรีระหว่างไทยและโปรตุเกส.

ศิลปากร. กรม. 2536. การท่องเที่ยวผจญภัยของแฟร์นังด์ มังเดซ ปินโต ค.ศ.1537-1558.

สันต์ ท. โกมลบุตร(แปล). 2510.จดหมายเหตุลาลูแบร์ฉบับสมบูรณ์ เล่ม 1.

สุเนตร ชุตินทรานนท์. 2538. บุเรงนองกะยอดินนรธา.

Campos, Joaquim de. 1959. Early Portuguese accounts of Thailand” Journal of The Siam

Society Volume VII.

Cogan, Henry. trans. 1653. The Voyages and Adventures of Fernand Mendez Pinto.

Collins, The. 1987. English Portuguese Portuguese English Dictionary.

Hutchinson, E.W. 1940. Adventurers in Siam in the Seventeen Century.

Wood, W.A.R. 1959 . “Fernão Mendez Pinto’s Account of Events in Siam” Journal of The

Siam Society Volume VII.